Sustainable Organization กุญแจสำคัญสู่ความยั่งยืนขององค์กร หลักสูตรผู้บริหารที่ผู้บริหารยุคใหม่ต้องเรียนรู้

การเป็นผู้บริหารยุคใหม่ ต้องมีการเรียนรู้และพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ หลายองค์กรจึงให้ความสำคัญ กับ “หลักสูตรผู้บริหาร” เพื่อให้ผู้บริหารได้นำความรู้มาต่อยอดพัฒนาองค์กรในด้านต่าง ๆ จนสามารถนำทางให้องค์กรพัฒนาได้อย่างยั่งยืน ซึ่งหลังโลกได้รับผลกระทบจากโควิด-19 การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ และความไม่สงบที่ส่งผลกระทบไปทั่วโลก ส่งผลให้องค์กรหลายแห่งเริ่มให้ความสนใจกับการทำตามหลักเกณฑ์ “เป้าหมายเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน” หรือ SDGs ตามที่สหประชาชาติได้กำหนดไว้ เพื่อสร้างความยั่งยืนในระยะยาว
การพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน หรือ Sustainable Organization มีแนวคิดเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจ หรือบริหารองค์กร ที่คำนึงถึงผลกระทบในระยะยาวต่อเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ไม่ใช่แค่มุ่งเน้นผลกำไรในระยะสั้น แต่ยังให้ความสำคัญกับการสร้างคุณค่าให้กับสังคมและโลกใบนี้ด้วย ดังนั้นองค์กรที่อยากเติบโตอย่างยั่งยืนจะสนใจแค่การดำเนินธุรกิจอย่างเดียวไม่ได้อีกต่อไป เพราะด้วยปัจจัยหลายด้านที่เข้ามาเป็นตัวแปรในการใช้ชีวิตของผู้คน ไม่ว่าจะเป็นพฤติกรรมการบริโภคที่เปลี่ยนไป หรือการพัฒนาของเทคโนโลยีอย่างก้าวกระโดด โดยเฉพาะเรื่องของ AI และ Big Data จึงจำเป็นที่ผู้นำองค์กรต้องพัฒนาตัวเองตลอดเวลาและนำความรู้ไปพัฒนาบุคลากรเพื่อขับเคลื่อนองค์กรให้เติบโตอย่างยั่งยืนต่อไปได้ ผู้นำองค์กรจึงเป็นคนกลุ่มแรกที่จะต้องเปลี่ยนแปลงและพัฒนาตัวเองให้มี “ภาวะผู้นำที่ยั่งยืน”
ภาวะผู้นำที่ยั่งยืนคืออะไร
ภาวะผู้นำที่ยั่งยืน หรือ Sustainable Leadership คือ ผู้นำที่สามารถหาทางแก้ไขปัญหาด้านสังคม สิ่งแวดล้อม และเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในองค์กรได้ อีกทั้งยังเป็นแรงผลักดันให้บุคลากรลงมือทำงานที่ช่วยส่งเสริมความยั่งยืนให้กับองค์กร ชุมชน และสังคม ผ่านการวางกลยุทธ์ทางธุรกิจและการเปลี่ยนวัฒนธรรมองค์กรที่นำความยั่งยืนเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย การมีผู้นำที่มี Sustainable Leadership ถือเป็นปัจจัยหลักที่จะช่วยยกระดับองค์กรให้เป็น Sustainable Organization ได้ ซึ่งคุณลักษณะเด่นที่เห็นได้ชัดของ ผู้นำที่มีภาวะผู้นำที่ยั่งยืน มีดังนี้
1. มีวิสัยทัศน์ และมองการณ์ไกล
ผู้นำที่มีภาวะผู้นำที่ยั่งยืน จะตั้งเป้าหมายที่เน้นความยั่งยืนในอนาคต ให้ความสำคัญกับผลกระทบในระยะยาว และสามารถสื่อสารวิสัยทัศน์ ค่านิยมให้คนในองค์กร และคนนอกองค์กรรับรู้ได้อย่างชัดเจน ไปในทิศทางเดียวกัน
2. มีมุมมองแบบองค์รวม พร้อมรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม
ผู้นำที่มีภาวะผู้นำที่ยั่งยืน จะตระหนักถึงผลกระทบของการดำเนินงานต่อชุมชนและธรรมชาติ มีการกำหนดกลยุทธ์ที่สนับสนุนแนวทางการพัฒนาที่ลดการใช้ทรัพยากร พร้อมทั้งส่งเสริม หรือการดำเนินกิจกรรมที่สร้างคุณค่า และประโยชน์แก่สังคม
3. เป็นนักพัฒนา ที่ให้ความสำคัญกับผู้คน
ผู้นำที่มีภาวะผู้นำที่ยั่งยืน จะสนับสนุนการพัฒนาทักษะและศักยภาพของทีมงาน ส่งเสริมความหลากหลายและการมีส่วนร่วมของทุกคนในองค์กร เน้นการดูแลสุขภาวะและความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงานและชุมชน
ทั้ง 3 ข้อ คือจุดเด่นของผู้นำองค์กรที่มีภาวะผู้นำที่ยั่งยืน ที่จะสามารถสร้างโอกาสให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนได้ แต่ผู้นำยังมีบทบาทสำคัญอีกด้าน คือการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ เพื่อให้การทำงานเร็วขึ้นและสนับสนุนแนวคิดรักษ์โลกและความยั่งยืนไปพร้อม ๆ กัน หรือที่เรียกว่า Sustainable Technology

การใช้เทคโนโลยีเพื่อความยั่งยืนขององค์กร
เทคโนโลยีเพื่อความยั่งยืน หรือ Sustainable Technology หมายถึง เทคโนโลยีที่ถูกออกแบบมาเพื่อลดผลกระทบเชิงลบต่อสิ่งแวดล้อม และสนับสนุนการพัฒนาที่ยั่งยืนในทุก ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ในปัจจุบันมีการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ในการดำเนินธุรกิจมากมาย ทั้ง Big Data, AI หรือ Machine Learning โดยเทคโนโลยีที่ยั่งยืนอาจมีตั้งแต่เทคโนโลยีทางกายภาพ เช่น แผงโซลาร์เซลล์ ไปจนถึงซอฟต์แวร์ที่มีความซับซ้อน ซึ่งสามารถนำมาประยุกต์ใช้เพื่อสร้างความยั่งยืนให้องค์กรได้ดังนี้
1. การลดการใช้พลังงานและส่งเสริมพลังงานหมุนเวียน
- ใช้พลังงานสะอาด เช่น ติดตั้งระบบพลังงานแสงอาทิตย์หรือพลังงานลมในสถานที่ประกอบการเพื่อลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน
- ปรับปรุงระบบไฟฟ้า ใช้หลอดไฟ LED และเครื่องจักรที่ประหยัดพลังงาน
- Smart Grid ใช้ระบบเครือข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะเพื่อลดความสูญเปล่าของพลังงาน
2. การปรับปรุงกระบวนการผลิตให้ยั่งยืน
- Lean Manufacturing ลดของเสียในกระบวนการผลิตด้วยการวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์
- เศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) นำวัสดุเหลือใช้จากการผลิตกลับมาใช้ใหม่ เช่น การรีไซเคิลบรรจุภัณฑ์หรือการนำของเสียกลับมาผลิตเป็นวัตถุดิบ
- Carbon Capture Technology ใช้เทคโนโลยีดักจับและกักเก็บคาร์บอนจากกระบวนการผลิตเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
3. การพัฒนาสินค้าและบริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
- ออกแบบสินค้าเพื่อความยั่งยืน (Eco-Design) ใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น พลาสติกชีวภาพ
- สินค้าดิจิทัล ลดการใช้ทรัพยากรด้วยการเปลี่ยนสินค้าจากรูปแบบกายภาพเป็นรูปแบบดิจิทัล เช่น e-books หรือบริการสตรีมมิ่ง
- บรรจุภัณฑ์รักษ์โลก ใช้บรรจุภัณฑ์ที่ย่อยสลายได้หรือใช้ซ้ำได้
4. การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อเพิ่มความยั่งยืน
- การใช้ IoT และ Automation ใช้เซ็นเซอร์และระบบอัตโนมัติในการจัดการทรัพยากร เช่น การควบคุมการใช้น้ำและพลังงานในโรงงาน
- การนำ Big Data และ AI มาใช้วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของห่วงโซ่อุปทานและลดของเสีย
- ใช้ Blockchain เพื่อเพิ่มความโปร่งใสในการตรวจสอบที่มาของวัตถุดิบและกระบวนการผลิต
5. การบริหารจัดการภายในองค์กร
- นโยบาย Green Office ลดการใช้กระดาษและพลาสติกในสำนักงานด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล เช่น ระบบ e-Document
- การใช้ Cloud Computing ลดการใช้เซิร์ฟเวอร์ที่ใช้พลังงานมากโดยเปลี่ยนไปใช้ คลาวด์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
- พัฒนาองค์กรด้วย ESG (Environmental, Social, Governance) บูรณาการความยั่งยืนในทุกมิติของธุรกิจ
การนำ Sustainable Technology มาใช้ในธุรกิจไม่เพียงช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แต่ยังเป็นการลงทุนเพื่ออนาคตที่ยั่งยืนและสร้างคุณค่าให้แก่องค์กรในระยะยาว
จากข้อมูลที่นำเสนอมาเบื้องต้น จะเห็นได้ว่าการสร้าง Sustainable Organization เป็นกุญแจสำคัญที่ส่งผลต่อภาพรวมขององค์กร ที่ผู้นำหรือผู้บริหารต้องทำความเข้าใจและเรียนรู้ เพื่อสามารถนำมาพัฒนาองค์กรได้อย่างยั่งยืนในทุกมิติ
และสำหรับผู้ที่ต้องการความรู้ในการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืนแบบเจาะลึก ขอแนะนำหลักสูตร LEAD Big Data And AI For Sustainable Future

หลักสูตรผู้บริหาร ที่ออกแบบมาสำหรับผู้บริหารยุคใหม่ เพื่อยกระดับความรู้และศักยภาพเกี่ยวกับข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ดิจิทัลเทคโนโลยี เพื่อนำไปพัฒนานโยบายการดำเนินงานขององค์กรให้มีประสิทธิภาพและยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจให้สูงยิ่งขึ้น ผ่านการเรียนรู้ พัฒนาแนวคิด ลงมือทำจริง พร้อมดูงานกับบริษัทระดับโลกในต่างประเทศ
โดย LEAD จัดโดยสถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) หรือ สขญ. แหล่งรวมผู้เชี่ยวชาญด้าน Big Data และ AI ที่มีภารกิจขับเคลื่อนให้องค์กรต่าง ๆ ในประเทศใช้ข้อมูลให้เกิดประโยชน์สูงสุดและเกิดการบูรณาการข้อมูลระหว่างกัน โดยมุ่งเน้นให้ผู้นำองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน สามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลและเทคโนโลยีได้อย่างรวดเร็ว เห็นผล ผ่านการเรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญในวงการชั้นนำของประเทศ พร้อมมีที่ปรึกษาจาก สขญ. คอยดูแลให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิดตลอดหลักสูตร
รีบจองที่นั่ง Early Bird ได้แล้ววันนี้
ราคา 189,900 บาท จากราคาปกติ 209,900 บาท
(รวมศึกษาดูงานทั้งในประเทศ และต่างประเทศ)
ท่านสามารถแจ้งความประสงค์เพื่อลงทะเบียนหลักสูตรได้ที่: https://forms.gle/QFW229rG7cbjx53R6
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม Email: businesspromotion@bdi.or.th หรือ โทร: 02 480 8833 ต่อ 9552 และ 9579
สนใจดูรายละเอียดและข้อมูลเพิ่มเติมคลิก LEAD2 – Big Data Institute
แหล่งอ้างอิง :