สถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน)

Logo BDI For web

E-commerce: อีก 1 ธุรกิจที่ให้ความความสำคัญกับบิ๊กดาต้า

Feb 10, 2023

ในปัจจุบันเทคโนโลยี Big Data ในธุรกิจ E-commerce กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นทุกปี ธุรกิจประเภทนี้จำเป็นต้องใช้ข้อมูลขนาดใหญ่รวมกับเทคโนโลยีเพื่อสร้างความมีส่วนร่วมระหว่างผู้ขายและลูกค้า แม้ว่า Big Data จะมีประโยชน์มากมาย แต่มีความท้าทายบางอย่างที่ต้องเอาชนะให้ได้ ในบทความนี้ เราจะมาดูกันว่า Big Data สำหรับธุรกิจ E-commerce คืออะไร ข้อดีอะไรบ้างและมีแนวโน้มเป็นอย่างไร

Big data ในธุรกิจ E-commerce คืออะไร?

Big Data ในธุรกิจ E-commerce คือ การขายสินค้าหรือบริการบนอินเทอร์เน็ตรูปแบบหนึ่งที่ใช้ Big Data และ Analytics ในการปรับปรุงการมีส่วนร่วมของลูกค้า ปรับแต่งประสบการณ์การซื้อสินค้าและยังสามารถเพิ่มยอดขายสินค้าอีกด้วย การดึงดูดลูกค้าด้วย Big Data มีสองวิธีที่นิยมใช้ คือ การให้คำแนะนำเกี่ยวกับโปรโมชั่นที่เหมาะสมและการเพิ่มการมองเห็นข้อมูลผลิตภัณฑ์

บริษัทสามารถใช้ Big Data เพื่อเพิ่มรายได้และลดต้นทุนได้อย่างไร

โดยทั่วไปแล้วการจัดเก็บ Big Data สำหรับธุรกิจ  E-commerce จะต้องมีความยืดหยุ่นและปรับขนาดได้ เพื่อช่วยให้มีพื้นที่ที่สามารถรองรับผู้ที่มาเยี่ยมชมเว็บไซต์นับล้านในแต่ละวันโดยไม่ต้องกังวลว่าข้อมูลจะสูญหาย การที่มีข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้ผู้ขายสามารถวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกทางธุรกิจเกี่ยวกับพฤติกรรมการซื้อสินค้าของลูกค้าเพื่อปรับประสบการณ์ของลูกค้าในสื่อทุกช่องทางที่ลูกค้าเข้าถึง

ประโยชน์ของ Big Data สำหรับธุรกิจ E-commerce

ส่วนบุคคล

สำหรับคนที่ทำธุรกิจออนไลน์นั้น Big Data มีส่วนช่วยในการวิเคราะห์หลายด้าน อาทิเช่น ช่วยผู้ค้าปลีกในการปรับปรุงผลิตภัณฑ์และส่งเสริมการขายตามสิ่งที่ลูกค้าซื้อหรือเรียกดู

ยกตัวอย่างเช่น ร้านค้าออนไลน์ขายปลีกรองเท้าสามารถใช้ Big Data ในการแสดงรองเท้าที่ลูกค้าเคยซื้อ แนะนำรองเท้ายอดนิยมอื่น ๆ ที่คล้ายกับรองเท้าที่เคยซื้อมาก่อนหน้านี้ และยังสามารถใช้ Big Data มาวิเคราะห์เพื่อเข้าใจแรงจูงใจและความสนใจของลูกค้า ตลอดจนให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับความต้องการและความพึงพอใจของลูกค้าอีกด้วย

การปรับปรุง SEO

การวิเคราะห์โดยใช้ Big Data ช่วยปรับปรุง Search Engine Optimization (SEO) ของผู้ขายได้ผ่านการให้ข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งที่ลูกค้ากำลังค้นหาเพื่อให้ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับสิ่งที่ลูกค้าสนใจเหล่านั้นปรากฏที่ด้านบนสุดในหน้าการค้นหา การวิเคราะห์ด้วย Big Data จะทำให้ผู้ขายมั่นใจได้ว่าหน้าผลิตภัณฑ์นั้นมีความเกี่ยวข้อง ถูกต้อง และเป็นปัจจุบันที่สุด นอกจากนี้ การวิเคราะห์ด้วย Big Data ยังสามารถนำไปใช้ในการดึงดูดลูกค้าให้เกิดความสนใจจนเกิดการซื้อสินค้า วิธีการนี้เรียกว่า Conversion Rate Optimization (CRO) หรือ การเพิ่มอัตราส่วนระหว่างยอดจำหน่ายสินค้าตามจริงเมื่อเทียบกับยอดเข้าชมสินค้าได้นั่นเอง

SEO ช่วยให้ลูกค้าค้นพบสิ่งที่ต้องการได้ไวขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในธุรกิจ e-commerce
(ที่มาภาพจาก www.freepik.com)

การจัดการความสัมพันธ์ของลูกค้า

การจัดการความสัมพันธ์ของลูกค้าช่วยให้ผู้ขายสามารถเข้าใจพฤติกรรมการซื้อสินค้าของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น โดยจะมีซอฟต์แวร์ที่ช่วยให้บริษัท E-commerce สามารถระบุคุณลักษณะหรือผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่สุดสำหรับลูกค้า จัดลำดับความสำคัญของแผนการพัฒนาฟีเจอร์ตามความคิดเห็นที่ได้รับและยังตอบสนองอย่างรวดเร็วเมื่อคู่แข่งมีสินค้าหรือฟีเจอร์ใหม่ ๆ โดยใช้ประโยชน์จากการวิเคราะห์ Big Data ในหลายช่องทางแบบเรียลไทม์

การบริการลูกค้า

การวิเคราะห์ Big Data ช่วยให้รู้ว่าลูกค้าคือใคร ต้องการอะไร เวลาไหน และยังทราบด้วยว่าลูกค้าพึงพอใจเพียงใดจากการรวบรวมคำติชมจากลูกค้าแบบเรียลไทม์ผ่านกล่องข้อความ แบบสำรวจและการสนทนาทางโทรศัพท์ เป็นต้น

Customer Service  เป็นอีกด้านสำคัญที่มีการใช้ Big Data เข้ามาเพื่อปรับปรุงการให้บริการแก่ธุรกิจ e-commerce
(ที่มาภาพจาก www.freepik.com)

การพยากรณ์โดยใช้ Big Data ในธุรกิจ E-commerce ปี 2566 ตามแนวโน้มปัจจุบัน

อย่างที่รู้กันดีว่าธุรกิจ E-commerce มีการเก็บข้อมูลในการดำเนินงานอยู่มากมาย ทำให้มีแนวโน้มว่าในปี 2566 Big Data จะกลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการหาลูกค้าใหม่ ๆ เนื่องจากสามารถระบุพฤติกรรมการซื้อของลูกค้าและสามารถทำนายสิ่งที่ลูกค้าอาจต้องการ การวิเคราะห์เหล่านี้จะช่วยให้บริษัทต่าง ๆ เข้าใจ ลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น Big Data สำหรับธุรกิจ E-Commerce ยังเก็บข้อมูลการขายในอดีตเพื่อช่วยให้ผู้ขายรู้ว่าลูกค้าคือใคร ต้องการอะไร และเมื่อใดที่พวกเขาต้องการ อีกทั้งยังช่วยให้บริษัทต่าง ๆ สามารถเฝ้าติดตามรายละเอียดของแต่ละอย่าง ตั้งแต่การค้นหาสินค้าไปจนถึงพฤติกรรมการซื้อ นอกจากนี้ยังช่วยในการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ทางธุรกิจ เช่น การกำหนดความต้องการของผลิตภัณฑ์ในท้องตลาดที่เป็นไปได้ก่อนที่จะใช้จ่ายจริงในสินค้าคงคลัง

สิ่งที่ควรทำหากต้องการเริ่มต้นกับ Big Data ในบริษัท

ในรายงาน Big Data ใน Retail Market โดย Transparency Market Research คาดการณ์การเติบโตของการค้าปลีกจาก 420 ล้านดอลลาร์ในปี 2556 เป็น 2.9 พันล้านดอลลาร์ในปี 2563 โดยมีอัตราการเติบโตต่อปี (CAGR) 36.3% จากหัวข้อก่อนหน้าจะเห็นว่า Big Data มีประโยชน์และสามารถช่วยให้ธุรกิจเติบโตได้ถ้าหากใช้อย่างถูกต้อง

แม้ว่าการวิเคราะห์ด้วย Big Data จะมีความซับซ้อน แต่ก็มีบางแง่มุมที่สามารถใช้ประโยชน์ได้โดยไม่ต้องลงลึกในเรื่องนี้มากเกินไป

การวิเคราะห์ Big Data มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการพัฒนาคุณภาพสินค้าและบริการใน e-commerce
(ที่มาภาพจาก www.freepik.com)

การทำ A/B Testing จากการวิเคราะห์ข้อมูล Big Data

การทำ A/B Testing หรือเรียกว่า Split Testing เป็นการสร้างชิ้นงานตั้งแต่ 2 ชิ้นงานขึ้นไปแล้วนำมาทดสอบเพื่อวัดผลว่าชิ้นงานอันไหนดีกว่ากัน กระบวนการทดสอบนี้สามารถนำไปใช้กับธุรกิจเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน โดยจำเป็นต้องระบุวัตถุประสงค์ของการทดสอบให้ชัดเจน

ยกตัวอย่างเช่น หากบริษัท Moland ต้องการทดสอบรูปแบบเว็บไซต์ที่ออกแบบ ว่าแบบใดมีคนกดเข้าชมมากกว่ากันระหว่างรูปแบบ A และ รูปแบบ B บริษัทจึงได้เก็บข้อมูลการเข้าชมเว็บไซต์ในสองรูปแบบ แล้วนำไปวิเคราะห์เปรียบเทียบจนได้ข้อสรุปว่า มีผู้กดเข้าชมเว็บไซต์รูปแบบ A มากกว่ารูปแบบ B บริษัทจึงเลือกนำเว็บไซต์รูปแบบ A ไปปรับใช้จริง

จากตัวอย่างจะเห็นว่า Big Data มีส่วนสำคัญในการช่วยตัดสินใจและยังมีส่วนช่วยพัฒนาธุรกิจไปสู่ความสำเร็จได้อย่างมาก

รวม Big Data เข้ากับเครื่องมือ Business Intelligence (BI) ที่มีอยู่

เมื่อต้องการวิเคราะห์โดยใช้ Big Data ผู้ขายไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องมือใหม่ๆเสมอไปแต่สามารถนำ Big Data มาใช้กับเครื่องมือ Business Intelligence ที่มีอยู่ เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดตามความต้องการและเป้าหมายที่ตั้งไว้

ใช้การวิเคราะห์ Big Data เพื่อปรับปรุงข้อมูลเชิงลึกทางธุรกิจและการตัดสินใจ

การวิเคราะห์ Big Data มีประโยชน์ในการช่วยมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ให้กับลูกค้า ทำให้เกิดการโต้ตอบกับลูกค้าในระดับที่เป็นส่วนตัวมากขึ้น Big Data ช่วยให้เข้าถึงข้อมูลอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนเกี่ยวกับพฤติกรรมของลูกค้า ซึ่งจะเป็นประโยชน์ทั้งต่อผู้ขายและลูกค้าเมื่อใช้อย่างเหมาะสม

บทส่งท้าย

Big Data สำหรับธุรกิจ E-commerce เป็นคำที่ครอบคลุมสำหรับข้อมูลดิจิทัลทั้งหมดที่สามารถรวบรวมได้เกี่ยวกับผู้บริโภค ธุรกิจ และหน่วยงานอื่น ๆ นอกจากนี้ยังมีการใช้ Big Data ในการวิเคราะห์เพื่อทำความเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคในวงกว้าง จากการศึกษาพบว่าในปี 2566 จะเห็นการเติบโตมากขึ้นในแง่ของจำนวนข้อมูลที่พร้อมสำหรับการวิเคราะห์โดยนักการตลาดที่ต้องใช้ข้อมูลปริมาณมหาศาลในการตัดสินใจเกี่ยวกับกลยุทธ์ทางการตลาดของตน

บทความต้นฉบับโดย Truong Mai เผยแพร่บน magenest
แปลและเรียบเรียงโดย พรวิภา มีเคลือบ
ตรวจทานและปรับปรุงโดย พีรดล สามะศิริ

Pawnwipa Meeklueb

Data Scientist at Big Data Institute (Public Organization), BDI

© Big Data Institute | Privacy Notice