เปลี่ยนออฟฟิศที่ทํางานสู่โลกเสมือนจริง VR

การผสาน Metaverse กับโลกความเป็นจริงโดยใช้เทคโนโลยี Virtual Reality จะให้การทํางานในองค์กรของคุณไม่เหมือนเดิมอีกตลอดกาล ( VR เเละ Metaverse )
แน่นอนว่า คุณต้องเคยได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับ Metaverse มาบ้าง Metaverse เป็นโลกเสมือนจริง (Virtual Reality) ที่ผู้ใช้งานสามารถโต้ตอบซึ่งกันและกัน สามารถทำกิจกรรมร่วมกันเหมือนอยู่ในสถานที่เช่นเดียวกับที่พวกเขาทําในโลกแห่งความเป็นจริง เพียงแต่ Metaverse ทำให้การมาเจอกันหรือโต้ตอบซึ่งกันและกันสะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น (คือไม่ต้องเสียเวลาเดินทางมาเจอกันนั่นเอง) โดยเราสามารถสร้าง Metaverse ขึ้นมาได้โดยการใช้แอปพลิเคชัน เช่น การสร้างภาพ 3 มิติ การสัมมนา การฝึกอบรมพนักงานและการประชุมเสมือนจริง รวมถึงการซื้อขายเกมใน Metaverse จึงทำให้เราเชื่อมั่นได้ว่า Metaverse นี่แหละจะสรรค์สร้างสถานที่ทํางานเป็นแบบใหม่ทั้งหมด
การที่ Metaverse ทำให้ผู้ใช้งานสามารถโต้ตอบซึ่งกันและกันได้นั้น ถูกนำมาเป็นรากฐานในการปรับการทำงานขององค์กรใหม่ทั้งหมด โดยมุ่งเน้นไปที่วิธีที่ผู้คนโต้ตอบและที่ ๆ คนๆ นั้นทำงานอยู่ “เมื่อ VR ได้รวมคนในองค์กรเข้าด้วยกัน เราจะเริ่มเห็นการสร้างที่ทำงานเสมือนจริง การฝึกอบรมด้านเทคนิคที่สมจริงยิ่งขึ้น และวิธีการใหม่ในการใช้แบบจําลองดิจิทัลเพื่อช่วยให้พนักงานตัดสินใจในการดําเนินงานได้ดีขึ้น” กล่าวโดยคุณ Yusuf Tayob หัวหน้าผู้บริหาร Accenture Operations หน่วยงานที่ช่วยให้ลูกค้าปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงการดำเนินธุรกิจ
VR มีศักยภาพที่จะยกระดับอุตสาหกรรมจํานวนมาก ซึ่งส่งผลกระทบต่อทุกสาขา ทุกภาคอุตสาหกรรม มันช่วยเปลี่ยนแปลงทั้งในวิธีการสร้างปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าและวิธีการทำงานภายในองค์กรเอง James Lloyd Townshend ประธานและ CEO ของผู้ให้บริการความสามารถด้านเทคโนโลยี Revolent Group กล่าว
การนำ VR มาใช้ในองค์กรจะทำให้สมาชิกในทีมสามารถสัมผัสประสบการณ์และสถาณการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดได้เหมือนกับโลกแห่งความเป็นจริง โดยไม่ต้องเจอกับความเสี่ยงที่พวกเขาอาจเจอได้ในการทำงานทุก ๆ วัน เช่น พายุ โรคระบาดใหญ่และภัยพิบัติทางธรรมชาติที่ทำให้ไม่สามารถไปทำงานได้ ซึ่งแอปพลิเคชัน VR มักจะถูกใช้ในการทำงานที่ต้องเกิดการโต้ตอบกันในที่ประชุม เช่น การฝึกอบรมทีม การนําเสนอการขาย การสัมมนาการสาธิตผลิตภัณฑ์ การประชุมเพื่อสนทนาหารือในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น “แม้ว่าการได้สัมผัสประสบการณ์เหล่านี้ในชีวิตจริงอาจเป็นการเรียนรู้หรือฝึกซ้อมที่ดีที่สุด แต่การใช้ VR ก็ช่วยให้เรียนรู้หรือฝึกซ้อมได้ไม่แพ้กัน” Lloyd-Townshend กล่าว
ผู้บริหารของ Accenture (Tayob) ได้ระบุว่า Metaverse ที่มีประสิทธิภาพจะควรมีคุณสมบัติ 3 อย่างนี้:
- Augmented Workplaces หรือสถานที่ทํางานเสมือนจริง
จากโรคระบาดใหญ่ทำให้เกิด “Office Anywhere” หรือทำงานได้ทุกที่ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ท้าทายสำหรับหลายบริษัทมาก ๆ เพราะเปลี่ยนจากเดิมที่ทำงานโดยการส่งอีเมลมาเป็นการประชุมทางวิดีโอและการสื่อสารผ่านแชท เพื่อทำให้คนในทีมสามารถเชื่อมต่อ ติดต่อสื่อสาร และสามารถทำงานร่วมกันได้แม้ไม่ได้ไปเจอกัน ซึ่ง VR นี่แหละเป็นตัวการสำคัญที่ช่วยให้ทีมสามารถทํางานที่บ้านได้โดยไม่ได้ลดการปฏิสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนร่วมงาน - Physical World Simulation หรือการจําลองโลกทางกายภาพ
แบบจําลองดิจิทัลที่จำลองบรรยากาศของสำนักงานจะช่วยให้พนักงานรู้สึกว่าได้ทํางานในสภาพแวดล้อมที่คุ้นเคย ทําให้พวกเขาสามารถเห็นมุมมองแบบองค์รวมของสํานักงาน คลังสินค้า สายการประกอบและสิ่งอํานวยความสะดวกทางกายภาพอื่น ๆ ช่วยให้พวกเขาตัดสินใจในการดําเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ - Reimagined Business Operations หรือการดําเนินธุรกิจรูปแบบใหม่
การสร้างและวิเคราะห์ Digital Twin หรือ ฝาแฝดในโลกดิจิทัล สำหรับการดำเนินงานในองค์กรเป็นการผสานโลกความเป็นจริงและโลกเสมือนเข้าด้วยกันด้วย Digital Twin นั่นเอง ซึ่งจะทำให้ผู้นําสามารถทดลองกับรูปแบบธุรกิจต่าง ๆ ได้อย่างปลอดภัยทดสอบสถานการณ์ที่แตกต่างกันและมองเห็นกระบวนการที่ช่วยให้การทำงานมีความคล่องตัวมากขึ้น รวมถึงโอกาสทางการเงินอีกด้วย
ความท้าทายเพื่อไปสู่ VR
แน่นอนว่าการทำให้คนยอมรับ VR จริง ๆ มีอุปสรรคหลายอย่าง ทั้งเรื่องค่าใช้จ่าย ขีดจำกัดความสามารถของซอฟต์แวร์ ชุดหูฟัง VR ที่มีขนาดใหญ่เทอะทะ รวมถึงการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต “อย่างไรก็ตามความท้าทายเหล่านี้จะไม่เป็นอุปสรรคอีกต่อไปเมื่อเทคโนโลยี 5G พร้อมใช้งานทั่วโลก” Sergey Golubenko หัวหน้าแผนก SharePoint ของ บริษัท ที่ปรึกษาด้านไอที ScienceSoft กล่าว
Golubenko คาดการณ์ว่าในอนาคตอันใกล้นี้ชุดหูฟัง VR จะมีขนาดเล็กลงและเป็น Wireless “พวกเขาจะมีความสะดวกในการใช้งานมากขึ้น ซึ่งทำให้มั่นใจได้ว่าในอนาคตเราจะมีการนํา VR มาใช้ในที่ทํางานมากขึ้น” รวมถึงการพัฒนาคุณภาพของภาพ VR ให้มีความละเอียดและความสมจริงมากขึ้น “สิ่งนี้จะช่วยให้สามารถสร้างประสบการณ์ที่เหมือนจริงได้มากขึ้นซึ่งจะทําให้การสื่อสารและการทํางานร่วมกันของพนักงานระยะไกลมีประสิทธิภาพมากขึ้น” Golubenko
Lloyd-Townshend เชื่อว่าสิ่งที่ท้าทายที่สุดสำหรับ VR คือการทําความเข้าใจในเรื่องศักยภาพของเทคโนโลยีและการนำ VR มาแก้ไขปัญหาหรือจุดบอดที่เกิดขึ้นในธุรกิจ “ผมคิดว่านี่แหละเป็นข้อเท็จจริงของเทคโนโลยีเมื่อมีนวัตกรรมใหม่เกิดขึ้น” “เช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นกับเทคโนโลยี Cloud เมื่อสองสามปีที่ผ่านมา ซึ่งจากที่เคยเป็นข้อยกเว้นกับกลายเป็นบรรทัดฐาน ที่ตอนนี้เกือบทุกธุรกิจใช้ระบบ Cloud ในการดําเนินงานส่วนใหญ่หรือทั้งหมดด้วยซ้ำ” สำหรับตัว VR เอง เราก็น่าจะพูดได้เหมือนกับ Social Media, ระบบอัตโนมัติ (Automated Systems), ปัญญาประดิษฐ์ (AI), และเทคโนโลยีอื่น ๆ ที่ตอนนี้เป็นสิ่งจำเป็นในชีวิตประจําวันเราไปแล้ว “มันเหลือแค่ว่า จะหาการใช้งานที่เหมาะสมสําหรับ VR เพื่อให้นำไปใช้ในการดำเนินธุรกิจทั่วไปได้ยังไงแค่นั้นเอง” Lloyd-Townshend
ขั้นแรกกับการบุกเบิก Metaverse
องค์กรที่ต้องการเริ่มต้นใน Metaverse สามารถเริ่มต้นโดยการใช้ Horizon Workrooms เวอร์ชันเบต้าของบริษัท Meta ที่เปิดให้คนทั่วไปใช้ได้ ซึ่งสิ่งนี้จะช่วยให้ทีมสามารถทํางานด้วยกันจากระยะไกลได้โดยใช้ชุดหูฟังเสมือนจริง Oculus Quest 2 Johanna Viscaino ผู้อํานวยการบริหารของ 154 Agency ซึ่งเป็นบริษัททางด้านการตลาด ออกแบบเว็บไซต์และการพัฒนาแบรนด์ ได้กล่าวว่า การใช้ Horizon Workrooms ถือเป็นวิธีที่ดีในการรวมทีมที่ทำงานไกลกันให้สามารถประชุมหรือพูดคุยเรื่องงานกันได้ พนักงานเพียงแค่สแกนโต๊ะทํางานเชื่อมต่อกับแล็ปท็อปของพวกเขา จากนั้นก็เข้าสู่สํานักงานในโลกเสมือน “ทีมของเราสนุกกับการทำงานโดยใช้ Horizon Workrooms มาก ไม่ว่าจะเป็นการแชร์งานออกแบบ การแสดงคิดเห็นระหว่างการนําเสนอ” Viscaino ยังกล่าวอีกว่าทีมยังสามารถเชิญผู้ใช้ที่ไม่ได้ใช้ VR เข้ามาในห้องทํางานของพวกเขา “พวกเขาปรากฏในจอภาพที่ลอยอยู่และ . . . มีส่วนร่วมกับตัวตนอวตารของคนอื่น ๆ ได้”
เพื่อให้คุณได้ดื่มด่ำใน Metaverse จริง ๆ Viscaino แนะนําให้ขออนุมัติงบประมาณสําหรับการใช้ Metaverse ในกลุ่มขนาดเล็ก “คุณจำเป็นต้องมีกลุ่มคนที่ได้ลองใช้ VR เพื่อพูดถึงความสะดวกสบายที่เพิ่มมากขึ้น เนื่องจาก VR ในวันนี้ยังไม่ใช่เครื่องมือทํางานที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางขนาดนั้น”
ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า Viscaino คาดหวังว่าจะมีผู้นําองค์กรที่ได้รับการสนับสนุนจากผู้บริหารรุ่นใหม่มากขึ้น เพื่อเริ่มทำการสํารวจผลประโยชน์หรือควาสะดวกสบายที่เพิ่มขึนเมื่อมีออฟฟิศใน VR “ในโลกธุรกิจที่อาศัยอยู่ในโลกแห่งโควิด เครื่องมือใด ๆ ที่ช่วยให้คุณสนุกกับการทํางาน มันเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลย”
จักรวาลกำลังหมุนไปข้างหน้า… บริษัททั้งหลายน่าจะปฏิเสธไม่ได้เช่นกันว่าจักรวาลนิรมิตหรือ Metaverse กำลังหมุนเข้ามาหาพวกเรา ออฟฟิศในโลกเสมือนจริงจะช่วยให้พวกเราสนุกกับการทำงาน และกลายเป็นความจำเป็นใหม่ แต่นั่นหมายความว่าข้อมูลจำนวนมหาศาลจะต้องถูกจัดการและจัดระเบียบ Big Data จะกลายเป็นโจทย์สำคัญว่า แต่ละองค์กรจะใช้เครื่องมือ เทคโนโลยี Big Data เข้ามาช่วยให้คนของพวกเขา เปลี่ยนออฟฟิศธรรมดาไปสู่ Metaverse โลกเสมือนจริงได้ดีแค่ไหน ?
บทความโดย John Edwards
เนื้อหาจากบทความของ InfomationWeek
แปลและเรียบเรียงโดย วิน เวธิต
ตรวจทานและปรับปรุงโดย ปพจน์ ธรรมเจริญพร